บุญหวาย ประทุมรัตน์. 2554. ปัจจัยที่มีผลต่อการปฏิบัติตนในการป้องกันโรคขาดสารไอโอดีนของหญิงตั้งครรภ์ในอำเภอน้ำโสม จังหวัดอุดรธานี
บทคัดย่อ
การวิจัยเชิงวิเคราะห์แบบภาคตัดขวาง (Cross sectional analytical research) นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการปฏิบัติตนในการป้องกันโรคขาดสารไอโอดีนของหญิงตั้งครรภ์ในอำเภอน้ำโสม จังหวัดอุดรธานี กลุ่มตัวอย่างคือหญิงตั้งครรภ์ จำนวน 108 คน ที่ได้จากการสุ่ม เก็บรวบรวมข้อมูล โดยการสัมภาษณ์จากแบบสอบถามที่นักวิจัยสร้างขึ้นและผ่านการตรวจสอบความตรงและความเที่ยง มีค่าสัมประสิทธิ์อัลฟ่าของครอนบาช 0.86 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาในการบรรยายคุณลักษณะทางประชากร ความรู้ การรับรู้แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ การได้รับข้อมูลข่าวสาร และสถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ Multiple linear regression ในการหาปัจจัยที่มีผลต่อการปฏิบัติตนในการป้องกันโรคขาดสารไอโอดีนของหญิงตั้งครรภ์
ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างมีอายุเฉลี่ย 25.34 ± 6.76 ปี ร้อยละ 61.10 เป็นเกษตรกร จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ร้อยละ 38.90 มีค่ามัธยฐานรายได้ต่อเดือน 10,000 บาท มาฝากครรภ์ครั้งแรกเมื่ออายุครรภ์ เฉลี่ย 10.03 ± 4.59 สัปดาห์ ครึ่งหนึ่งเป็นการตั้งครรภ์ครั้งที่ 2 ค่ามัธยฐานจำนวนครั้งที่มาฝากครรภ์ 5 ครั้ง ร้อยละ 53.30 มีความรู้เรื่องโรคขาดสารไอโอดีน อยู่ในระดับสูง ร้อยละ 56.48 มีการปฏิบัติตนในการป้องกันโรคขาดสารไอโอดีนอยู่ในระดับสูง ร้อยละ 78.70 มีความเชื่อด้านสุขภาพโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง กลุ่มตัวอย่างส่วนมากมีการรับรู้รายด้านเกือบทุกด้านอยู่ในระดับสูงได้แก่ ร้อยละ 51.85 มีการรับรู้โอกาสเสี่ยงของ การเกิดโรคอยู่ในระดับสูง ร้อยละ 54.63 มีการรับรู้ความรุนแรงของโรคอยู่ในระดับสูง ร้อยละ 91.67 มีการรับรู้ผลดีของการปฏิบัติตนในการป้องกันโรคอยู่ในระดับสูง แต่ร้อยละ74.07 มีการรับรู้อุปสรรคของการปฏิบัติตนในป้องกันโรคอยู่ในระดับต่ำ และร้อยละ55.56 มีการได้รับข้อมูลข่าวสารโรคขาดสารไอโอดีนอยู่ในระดับต่ำ ส่วนปัจจัยที่มีผลต่อการปฏิบัติตนในการป้องกันโรคขาดสารไอโอดีนของหญิงตั้งครรภ์ ได้แก่ จำนวนครั้งของการตั้งครรภ์ (mean diff = -1.08 ; 95% CI: -2.12 to -0.49 ; p-value = 0.040) การรับรู้โอกาสเสี่ยงของการเกิดโรค (mean diff = 0.28 ; 95% CI: 0.07 to 0.49 ; p-value = 0.007) และการได้รับข้อมูลข่าวสารโรคขาดสารไอโอดีน (mean diff = 0.21 ; 95% CI: 0.01 to 0.28 ; p-value = 0.025)